ความเกี่ยวข้องระหว่าง Knowledge Management System and Expert system

ท่านคิดว่าระบบของการจัดการความรู้ (Knowledge Management System) มีความเกี่ยวข้องกับระบบผู้เชี่ยวชาญ ( Expert system) หรือไม่? อย่างไร?

Knowledge Management หมายถึง กระบวนการในการจัดการความรู้ คือ การสร้าง  เก็บ  Update และ การนำความรู้ไปใช้ โดยการหาความรู้จากอยู่ทั่วๆ ไปในองค์กรมาจัดระบบ และ พัฒนาให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ โดยจัดช่องทางการเข้าถึงความรู้ให้สะดวก รวดเร็ว  และ ทั่วถึงเพื่อให้ผู้คนนำความรู้ ไปพัฒนาการและสามารถปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด 

การทำการจัดการความรู้ไม่จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีเสมอไปเพียงแค่ให้พนักงานได้มีโอกาสได้พูดคุยกัน หรือ แชร์ความรู้กันก็ได้ แต่เทคโนโลยีสามารถทำให้การ แชร์หรือ เก็บความรู้ ได้ในจำนวนที่มากขึ้นและขยายไปในวงกว้างมากขึ้น

เป้าหมายของการจัดการความรู้ คือ การเอาความรู้ของคนในองค์กรมาใช้ประโยชน์ และทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับระบบผู้เชี่ยวชาญคือ

ช่วยรักษาความรู้ที่อาจสูญเสียไปเมื่อเกิดการลดออกของพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญ

ช่วยทำให้ข้อมูลมีคุณภาพและมีศักยภาพในการนำมาใช้งานได้อย่างทันท่วงทีเมื่อต้องการ

ช่วยทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่

ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะที่อาจเกิดกับมนุษย์ เช่นความเมื่อยล้า  ความสับสนวุ่นวาย 
หรือปัญหาด้านอารมณ์

ใช้เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ ด้านการตลาด การลดต้นทุน และการปรับปรุงพัฒนาสินค้า


***************************************** ^_^ ********************************************

การกำหนด Symbol รูปแบบของ Symbolic Logic และเขียน AND/OR graph ของกฎ

กำหนด Symbol ให้กับประโยคต่างๆ

เขียนกฎทั้งหมดในรูปแบบของ Symbolic Logic

ถ้าเป็นผู้เรียนคอมพิวเตอร์ขั้นต้น และ ต้องการความสนุก แล้วควรเรียนภาษาเบสิค

R1: IF A and B Then C

ถ้า เป็นผู้เรียนคอมพิวเตอร์ขั้นต้น และต้องการความยาก แล้วควรเรียนภาษาซี

R2: IF A and D Then E

ถ้า เป็นผู้เรียนคอมพิวเตอร์ขั้นสูง และต้องการความยาก แล้วควรเรียนภาษาจาวา

R3: IF F and D Then G

ถ้า เป็นผู้เรียนคอมพิวเตอร์ขั้นสูง และ ต้องการความสนุก แล้วควรเรียนภาษาไพทอน

R4: IF F and B Then H

ถ้า ผู้เรียนไม่คุ้นเคยกับคอมพิวเตอร์ แล้ว เป็นผู้เรียนคอมพิวเตอร์ขั้นต้น

R5: IF I Then A

ถ้า ผู้เรียนคุ้นเคยกับคอมพิวเตอร์ และ เขียนโปรแกรมไม่เป็น แล้ว เป็นผู้เรียนคอมพิวเตอร์ขั้นต้น

R6: IF J and K Then A

ถ้า ผู้เรียนคุ้นเคยกับคอมพิวเตอร์ และ เขียนโปรแกรมเป็น แล้ว เป็นผู้เรียนคอมพิวเตอร์ขั้นสูง

R7: IF J and L Then F

ถ้า เข้าใจโฟว์ชารท์ แล้ว เขียนโปรแกรมเป็น

R8: IF M Then L

ถ้า ไม่เข้าใจโฟว์ชารท์ แล้ว เขียนโปรแกรมไม่เป็น

R9: IF N Then K

เขียน AND/OR graph ของกฎ

การอนุมานแบบย้อนกลับ (backward chaining inference)

ระบบ Expert System

            ระบบ Expert System นอกเหนือจากการใช้ในด้านการแพทย์แล้ว ในความคิดของท่านจะสามารถนำระบบนี้ไปใช้เกี่ยวกับด้านใดได้บ้าง เพราะอะไร ?

            ระบบผู้เชี่ยวชาญ หรือ ระบบผู้ชำนาญการ (expert system) เป็นซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ช่วยในการหาคำตอบ อธิบายความไม่ชัดเจน ซึ่งปกตินั้นจะใช้ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาตอบคำถามนั้น
 
             ระบบผู้เชี่ยวชาญเป็นส่วนหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์โดยอาศัยระบบฐานความรู้ (knowledge-based system) และกลไกการอนุมาน (inference engine) เป็นองค์ประกอบหลักในการทำงาน

ตัวอย่างเช่น

            สำหรับผมคิดว่าสามารถนำ Expert System หรือระบบผู้เชียวชาญนั้นมาช่วยในเรื่อง  การทำนายด้านการคิดคำนวณค่าทางต่างๆ ทางวิศวกรรมศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ โดยอาศัยโปรแกรม   Microsoft Office Excel   อาทิเช่น การทำรายการบัญชี เนื่องจากมีการคำนวณหาค่าต่างๆ มากมายในการรายการ เมื่อเจอกับตัวเลขมากมาย อาจจะทำตาลายส่งผลให้คิดค่าต่างๆ ผิดพลาดไปด้วย ผลลัพธ์ออกมาก็ไม่รู้ว่าจะถูกหรือผิด จึงมีการคิดค้นเพื่ออำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งาน และไม่ต้องกังวลว่าผลลัพธ์จะผิดพลาด เป็นต้น

การแก้ปัญหา Linear Programming จะใช้ Microsoft Excel (Solver)

จากปัญหา ของตัวอย่างที่ 2, 3, 4 ของงานสัปดาห์ที่ผ่านมา (๑๘ ก.ค.๒๕๖๖) การแก้ปัญหา Linear Programming จะใช้ Microsoft Excel (Solver) ได้อย่างไร และคำตอบของตัวแปร (x) ของตัวอย่างที่ 2, 3, 4 มีค่าเท่าไร ทั้งนี้ การตอบจะต้องตอบใน Blog โดย Capture (Print Screen) หน้าจอของ Microsoft Excel (Solver)

ข้อ 1.) ตัวอย่างที่ 2    

Maximize    Z   =   15x₁   +   20x₂    +   25x₃

0  .3x₁   +   0.5x₂   +   0.2 x₃      <   1,000

  0.6x₁   +   0.3x₂   +   0.1 x₃      <   1,500

  0.1x₁   +   0.2x₂   +   0.7 x₃      <   2,000

                                          x₂         <   100  

                           x₁  , x₂  ,  x₃      >   0

********************************************************************************

ข้อ 2.) ตัวอย่างที่  3  

Maximize    Z   =   200x₁   +   300x₂    +   150x₃    +   100x₄

  0.18x₁   +   0.31x₂   +   0.18 x₃     +   0.18x₄   >   18

  0.43x₁   +   0.25x₂   +   0.12 x₃     +   0.50x₄   >   31

  0.31x₁   +   0.37x₂   +   0.37 x₃     +   0.12x₄   >   25

                                            x₁   ,  x₂   , x₃   , x₄    >   0

********************************************************************************

ข้อ 3.) ตัวอย่างที่ 4 

Maximize    Z   =   5000x₁   +   8500x₂    +   2400x₃    +   2800x₄

   800x₁   +   950x₂   +   290x₃     +   380x₄   <    8000

                                                      x₃     +   x₄   >    5

                                         290x₃     +   380x₄   <    1800

                                                                     x₁   <   12

                                                                      x₂  <    5

                                                                      x₃  <   20

                                                                      x₄  <   25

                                           x₁  ,  x₂  , x₃   ,  x₄   >    0

********************************************************************************